วันที่ 23 พ.ค. 57 เวลา 15.00 น.

                นายชาตรี  กิตติธนดิตถ์  นายอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมเป็นเกียรติเป็นประธานเปิดโครงการศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่บ้านใหม่หนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ทางชุดปฏิบัติการทหารชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน3203 ศูนย์รักษาความมั่นคงภายในภาค3 ส่วนแยก2 กองกำลังผาเมือง พร้อมกับกองบังคับการควบคุมศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติภาคเหนือ ได้ทำการเปิดศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมในการช่วยเหลือกัน และยังได้เรียนรู้เรื่องแนวทางเศรษฐกิจแบบพอเพียง เพื่อความยั่งยืนของประชาชนในพื้นที่เอง ได้ทำการร่วมทำการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ที่ทั้งสองพระองค์ทรงห่วงใยประชาชน  ในงานนั้นได้มีการร่วมสมทบทุน เพื่อนำเป็นกองทุนส่งเสริมโครงการกองทุนแม่ ซึ่งได้เงินหลายหมื่นบาท ในการสมทบร่วมโครงการ โดยนายชาตรี  กิตติธนดิตถ์  นายอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการร่วมสมทบ เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนในพื้นที่ได้นำเงินกองทุนมาทำการส่งเสริมหมู่บ้านในการตั้งศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์  ทั้งนี้ประชาชนกับทหารในพื้นที่ยังมีความเข้าใจอันดีต่อกัน ยังทำงานร่วมในการพัฒนาชุมชนอยู่ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ชายแดนยังเชื่อว่า ทหารยังเป็นที่พึ่งของประชาชนและยังเป็นที่รักของชาวบ้าน  ทหารพื้นที่ชายแดนยังดูแลทุกข์สุขของประชาชน ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนเยี่ยงญาติพี่น้องสร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาชน สมกับเป็นทหารของพ่อหลวงและแม่หลวง  ในงานนี้มีประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 200 คน

วันที่ 26 พฤษภาคม 2557  เวลา 08.00 น.

                พ.อ.ประจวบ  จันต๊ะมี  ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมที่ 1 ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ  นำกำลังทหารเข้าสำรวจพื้นที่ป่าบ้านแม่ฝางหลวง หมู่ที่ 18 ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่  เป็นพื้นที่สีแดงเรื่องยาเสพติด การบุกรุกทำลายป่าจากนายทุนกลุ่มอิทธิพลค้ายาเสพติดในพื้นที่ หลายพันไร่  แต่ก็มีประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็อาศัยพื้นที่เดียวกัน แต่ก็ยังมีความขาดแคลนเรื่องน้ำกินน้ำใช้เพราะระบบประปาภูเขาที่นี่ยังไม่ทั่วถึง  จากการเข้าสำรวจพบว่ามีการบุกรุกทำลายป่าอยู่มาก และยังมีการรุกล้ำขึ้นไปเรื่อยๆ จากกลุ่มอิทธิพลค้ายาเสพติดในพื้นที่ในการลงทุนจ้างชาวเขาให้ตัดทำลายป่าไม้ โดยทาง พ.อ.ประจวบ  จันต๊ะมี  ก็ได้หาทางเข้าพื้นที่เพื่อหาทางแก้ไข  ได้รับทราบว่าโครงการธรรมตามแนวพระราชดำริ ไชยปราการ นั้นได้ใช้ “โครงการน้ำแลกป่า”  ซึ่งเป็นแนวคิดและปฏิบัติการได้ผลของ พระครูสถิตธรรมภิรักษ์  ประธานโครงการ  ซึ่งจะเข้าพื้นที่ทำประชาพิจารณ์ว่าจริงๆ แล้วชาวบ้านต้องการอะไรเพื่ออะไร ถ้าต้องการน้ำก็จะต้องทำความเข้าใจว่าจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน โดยให้ประชาชนนั้นทำการป้องกันอนุรักษ์ป่าไม้ในพื้นที่ตนเอง โดยสร้างความเข้าใจทั้งหมู่บ้านเพื่อแลกกับระบบน้ำประปาภูเขา ที่จะลงมาดำเนินการให้จนเหลือใช้ทั้งหมู่บ้าน  ซึ่งทาง พ.อ.ประจวบ  จันต๊ะมี  ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมที่ 1 ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือก็ได้นำแนวทางมาปฏิบัติ และสอดแทรกเรื่องในพื้นที่ต้องจัดระบบป้องกันขบวนการยาเสพติดไม่ให้เข้ามาในหมู่บ้านหรือถ้าทราบก็ควรจะจัดการตามกฎหมายหรือกำหนดโทษไม่ให้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน  และการออกสำรวจในพื้นที่นั้นมีการบุกรุกทำลายป่ามาก  จึงได้เรียกผู้นำหมู่บ้านและผู้ใหญ่บ้านให้เข้ามารับทราบว่าจะกำหนดพื้นที่ คืนต้นไม้สู่ป่าโดยนำเอาพันธ์ต้นไม้ถิ่นเดิม มาลงปลูกและชาวบ้านจะต้องช่วยกันดูแลรักษาให้เจริญเติบโตต่อไป  ซึ่งทางทหารได้ทำในหลายพื้นที่และได้ผลต้นไม้เจริญงอกงาม  ส่วนพื้นที่นั้นก็ยังสามารถปลูกพืชไร่ได้ทุกปี เพียงแต่ต้องช่วยดูแลต้นไม้ที่ปลูกไว้ให้เติบโตต่อไป

วันที่ 10 พ.ค. 57 เวลาประมาณ 17.00 น.

               นายมนัส  ขันใส  นายอำเภอฝาง, นายสิทธิ์ วงศ์ม่าน ปลัดอาวุโสอำเภอฝาง,พ.อ.วิเศษเวโรจน์  วิเศษศรี  ผบ.หน่วย ขกท.กกล.ผาเมือง, พ.ต.ท.ฐิติพงศ์   เจนกิจเจริญชัย ผบ.ร้อย.ตชด.334, นายแสวง กาศรีวิชัย ปลัดอำเภอฝาง, พ.ต. นคร จันทร์บล หน.ชุด ตข.2ฯ ร่วม อส.ฝาง และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมออกทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดกั้น (ชั่วคราว) บริเวณบนถนนสาธารณะ บ.ห้วยจะนุ หมู่ 7 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ชุดจับกุมได้ตรวจพบ นายทูน  ละยอย อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 ม.7 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่  เดินผ่านมามีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุด และแสดงตัวตรวจค้นตัว  ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกใสจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาที่สวมใส่ จากการสอบถาม นายทูนฯ ให้การรับสารภาพว่าของกลางดังกล่าวเป็นขอตนเองจริง ซึ่งซื้อมาจากชาวเขาเผ่ามูเซอบ้านหนองไผ่ (ไม่ทราบชื่อ)  ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาทราบว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงได้นำตัวส่งพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันที่ 6 เมษายน 2557 เวลา 10. 00 น.

     พ.ต.ท.ฐิติพงศ์  เจนกิจเจริญชัย  ผู้บังคับกองร้อย ตชด. 334 แม่อาย  จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับนายสราวุธ  ไทยเจริญ นายอำเภอแม่อาย  จังหวัดเชียงใหม่   พ.ต.นคร  จันทบาล ฝ่ายการข่าวกองกำลังผาเมืองโดยชุด ตข.2  ร่วมทำการตรวจจับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการออกลาดตระเวนพื้นที่ชายแดนไทยพม่า บ้านห้วยฮะ –ช่องทางคอกวัวเก่า หมู่ที่ 9 ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พบชายขี่จักยานยนต์มาคนเดียว ในพื้นที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นพบบัตรประจำตัวผู้ซึ่งไม่มีสัญชาติ ชื่อนายจะสอ  จะหา อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 93/ซ  หมู่ที่ 4 ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่  พบยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด และฝิ่นดิบจำนวน 1.5 กิโลกรัม และรถจักรยายนต์หมายเลขทะเบียน  น 3114  ลำพูน  จาการสอบถามทราบว่านำยาบ้าและฝิ่นดิบมาจากประเทศพม่า โดยซื้อยาบ้ามาเม็ดละ 40 บาท เพื่อนำขายต่อนายทุนและผู้เสพ ส่วนฝิ่นดิบนั้นเอามาสูบเองใช้ได้เป็นปี ทั้งยาฝิ่นและยาบ้านอกประเทศมีมากมาย  ขอให้มีเงินไปซื้อก็สามารถนำมาได้ แต่ได้ทำมาเป็นหนที่สองก็ถูกจับ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้าส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่เพื่อดำเนินคดีต่อไป