ฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ  ตามแนวพอเพียงชาวบ้านชายแดน

วันที่ 29 ตุลาคม 2556 เวลา 08.00 น.

                นายทรรศนะ  พิทาคำ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมอาชีพตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับประชาชนแกนนำหมู่บ้านตามแนวชายแดน ที่ฐานปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 334 บ้านหัวนา หมู่ที่ 6  ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และได้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยต่อการจากไปของพระสังฆราช 1 นาที  ได้ให้วิทยากร โดยมี ร้อยโทพรศักดิ์  บุตรเมือง วิทยากรจากกองกำลังผาเมือง ที่มีความเชี่ยวชาญในการฝึกอบรมแนวปฏิบัติจริงในการทำน้ำหมักชีวภาพ, การทำปุ๋ยหมักจากชีวภาพ, การทำปุ๋ยน้ำชีวภาพ, การทำยาฆ่าแมลงชีวภาพ และทำยาฆ่าหญ้าชีวภาพ ฯลฯ ซึ่งเป็นวิทยากรที่ได้ไปให้ความรู้กับกลุ่มประเทศอาเซียนมาแล้วหลายประเทศ และได้ส่งเสริมชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้ สำเร็จมาแล้วหลายพื้นที่ ได้มาให้ความรู้กับประชาชนพื้นที่ชายแดน ร่วมกับทางตำรวจตระเวนชายแดน 334 พร้อมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเกษตร และสหกรณ์ฝาง เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนน้อมนำเอาแนวปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน, ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว, ใช้เวลาว่างให้ก่อเกิดประโยชน์กับครอบครัวและสังคม,ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด, ส่งเสริมให้ประชาชนและเกษตรกรทำปุ๋ย, อาหารสัตว์, น้ำหมักชีวภาพใช้เองเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้และสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเอง และสังคมสิ่งแวดล้อม ตามแนวปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส ชี้แนะแนวทางให้กับประชาชนชาวไทย  โดยมีแนวคิดสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ เพื่อพัฒนาประชาชนให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์  เพื่อขจัดความยากจน พัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง เป็นรากฐานการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญต่อไป

                จากการที่ทางประชาชนแกนนำที่เข้าทำการฝึกอบรมนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรมากถึง 95 % ที่มีความสนใจอย่างมาก ในการที่จะนำเอาความรู้ที่ทางวิทยากรมาให้ความรู้ และให้ประชาชนลองฝึกทำเอง และจะเข้ามาทำการสอนตามกลุ่มบ้านที่สนใจต่อไป

อนุรักษ์ประเพณีสลากภัตล้านนาปลอดเหล้า (ตานก๋วยสลาก)

วันที่ 18 ตุลาคม  2556 เวลา 07.00 น.

            คณะสงฆ์อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ให้วัดป่าไม้แดง (วัดพระเจ้าพรหมมหาราช) จัดประเพณีอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีสลากภัตล้านนาแบบโบราณและให้ปลอดเหล้า 100 % พระครูสถิตธรรมภิรักษ์  เจ้าอาวาสวัดป่าไม้แดง (ประธานโครงการธรรมตามแนวพระราชดำริ) ได้กล่าวว่าคณะสงฆ์อำเภอไชยปราการ ต้องการให้ทุกวัดจัดงานสลากภัตแบบล้านนาดั่งเดิม อนุรักษ์รูปแบบในอดีต ตั้งแต่ให้ชาวบ้านจัดทำอาหารเลี้ยงผู้คนที่มาร่วมงานบุญ การแห่ต้นสลากภัตเข้าวัด การแสดงของศิลปวัฒนธรรมประเพณีล้านนา ฟ้อนเล็บ ต้อนรับผู้คนที่มาร่วม  การแสดงของกลุ่มชนเผ่าต่างๆ ที่เข้าร่วม การประกวดธิดาสลากภัต การอนุรักษ์ต้นสลากภัตมี 3 แบบ –ต้นสลากภัตเล็กของชาวบ้าน –ต้นสลากภัตโชค ของคนที่มีแรงศรัทธาทุนทรัพย์-ต้นสลากภัตมหาโชคเป็นต้นใหญ่  ซึ่งต้นสลากภัตนั้นเข้าใจว่าเมื่อใครได้ทำก็จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ ดีขึ้น มีโชคลาภวาสนาที่ดี  และยังทำให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ได้รับผลบุญกุศลได้เกิดเป็นคนอีก เพื่อสั่งสมบุญบารมี และทรัพย์สินเงินทองไว้ใช้ในชาติหน้า  ทางวัดป่าไม้แดงจะจัดทุกปี และเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีล้านนาเต็มรูปแบบ ที่สำคัญจะปลอดสุรา 100 %

            นายคุณวัฒน์  สุคันธะกุล นายอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นประธานถวายยอดสลากภัต ที่ประชาชนได้นำเข้ามาร่วมทำบุญพร้อมกันในครั้งนี้  มีพระสงฆ์ และสามเณร ที่เข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 500 รูปประชาชนเข้ามาร่วมในการทำบุญตามประเพณีล้านนาประมาณ 2,500 คน  มีต้นสลากภัต รวมทั้งหมดประมาณ 1,500 ต้น ซึ่งพระสงฆ์ และสามเณรต้องทำการจับสลากรูปละ 3 ใบ เพื่อทำการรับต้นสลากภัต จากประชาชนที่เข้ามาร่วมทำบุญ มีการแสดงของล้านนามากกว่าทุกปี ที่สำคัญไม่มีประชาชนคนไหนเมาสุรา ถือว่าปลอดสุรา 100%

ทหารร่วมป่าไม้ชักลากไม้สักทองนายทุนตัดทำลาย

วันที่ 12 ตุลาคม 2556 เวลา 06.00 น.

พันโท นัฐภูมิ หลาวทอง  ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ได้นำกำลังทหาร เข้าร่วมสนธิกำลังกับ นายพิทักษ์  เตชะใจ หัวหน้าป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำฝาง นำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชม.24(เหมืองแร่) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชม.4 (ปางขามป้อม) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชม.3 (แม่สูน) พร้อม นายอติเทพ  พุทธวงค์ หัวหน้าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้แม่ทะลบหลวง และอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา นำเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ประมาณ 120 นาย เข้าทำการชักลากไม้และตรวจยึดไม้ที่ผิดกฎหมาย  จากการที่ทางอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา  ได้เข้าตรวจจับการบุกรุกทำลายป่าที่บ้านมูเซอป่าหนาหมู่ที่ 6 ตำบลแม่ทะลบ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตัวผู้กระทำผิด กำลังนำตัวออกจากป่าเพื่อดำเนินคดีระหว่างทางถูกกลุ่มมูเซอประมาณ 30 คนปิดล้อมบังคับให้ปล่อยตัวผู้กระทำผิดและจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่  จากนั้นได้ขอกำลังสนับสนุนจาก กองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ได้นำกำลังทหารเข้าช่วยในการเข้าตรวจค้นและยึดไม้แปรรูปเถื่อนที่นายทุนและชาวบ้านได้ทำการตัดจากสวนป่า ออป,องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้แม่ทะลบหลวง และจากป่าสงวนแห่งชาติแม่ทะลบหลวง และไม้ท่อนซุงจำนวนมาก บนแหล่งต้นน้ำแม่ทะลบ ที่นายทุนจ้างชาวบ้านตัดทำลายเพื่อนำมาแปรรูปจำหน่าย  

ทางนายพิทักษ์  เตชะใจ หัวหน้าป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำฝาง (อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่อาย  จังหวัดเชียงใหม่) กล่าวว่ากลุ่มชาวบ้านที่นายทุนจ้าง ไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังฮึกเหิมขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่  ซึ่งโดยเฉพาะกำลังส่วนน้อยของป่าไม้ไม่สามารถที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ ได้เพราะมีกลุ่มที่นายทุนหนุนหลัง หลายครั้งที่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้า  จึงต้องขอกำลังของทหารเข้ามาทำการร่วมเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของป่าไม้  ในวันนี้ได้มาทำการชักลากท่อนไม้สักทองแปลงปี พ.ศ.2527 อายุเกือบ 40 ปี ถูกทำลายลงมากจนแทบไม่เหลือ  และยังมีการเข้าตรวจค้นในหมู่บ้านมีการสร้างบ้านเก็บไม้และพรางตาเจ้าหน้าที่  สร้างบ้านแต่ไม่มีคนอาศัยอยู่ จึงได้ทำการตรวจยึดเป็นไม้ของกลางทันที่ ได้ตรวจยึดและเป็นคดี 3 คดี

–ตรวจยึดไม้ท่อนในแปลง ออป.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้แม่ทะลบหลวงจำนวน  24 ท่อน  4.13 คิวบิกเมตร ประเมินค่าความเสียหายของรัฐ  33,040 บาท

-ตรวจยึดไม้จำปีแปรรูปซุกซ่อนในป่าบ้านป่าหนา จำนวน 1.04 คิวบิกเมตร ประเมินค่าความเสียหายของรัฐ  9,100 บาท

-ตรวจยึดไม้จำปีแปรรูปบ้านพลางเก็บไม้ป่าหนาบ้านไม่มีเลขที่ ไม่มีเจ้าของ จำนวน 1.63 คิวบิกเมตร ประเมินค่าความเสียหายของรัฐ  16,405 บาท

รวมประเมินค่าความเสียหายของรัฐ  58,545 บาท  แต่ถ้าไม้ทั้งหมดออกจำหน่ายในส่วนการค้านั้นจะมากถึง  3 แสนบาทเศษ ทางป่าไม้ได้ส่งคดีให้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินคดีและหาผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป   แต่ที่สำคัญในเวลานี้อ่างเก็บน้ำแม่ทะลบหลวงมีน้ำเก็บน้อยมากสาเหตุมาจากสายน้ำสาขาจากป่าต้นน้ำนั้นหยุดไหลจำนวนมากกว่า 50% ของแหล่งน้ำในอดีต ถ้าทางราชการไม่เอาจริงเอาจังไม่เกิน 3-4 ปีอาจะไม่มีน้ำหลงเหลือให้เกษตรกรได้ใช้ในการกสิกรรมแน่นอน

ยาบ้า 6,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องคลอด3 นางชาวมูเซอแดง

วันที่ 20 กันยายน  2556 เวลา 07.00 น.               

พ.ต.ท.นิกร  สุตจริตธรรม  สวป.สภ.ไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำชุดปฏิบัติการด่านผาหงษ์ ทำการปราบปรามยาเสพติดโดยการตั้งด่านตรวจร่วม มีตำรวจภูธรไชยปราการ ตำรวจ ตชด.334 ทหารกองกำลังผาเมือง เข้าทำการร่วมกันทำการตรวจผู้คนประชาชน ที่เดินทางผ่านเพื่อเข้าจังหวัดเชียงใหม่ ทราบว่ามีขบวนการลักลอบนำยาเสพติดนำเอายาบ้าออกสู่พื้นที่ในเมือง  ทำการตรวจค้นรถตู้โดยสารประจำทาง VIP ของบริษัทยานยนต์นครเชียงใหม่

            พบ   1.นาง นาคือ  จะมู  อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/ช หมู่ 9 ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 2.นาง  นาหงืย  จะจู่  อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ 11 ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย  จ.เชียงราย    3.นาง นาอี่  จะบือ  อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/ช หมู่ 10 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย  จ.เชียงใหม่    ซุกซ่อนของกลางยาบ้าจำนวน 6,000 เม็ด  ทั้งสามคนซุกซ่อนไว้ในร่างกายโดยได้ยัดไว้ในช่องคลอด คนละ 2,000 เม็ด  (นำยาบ้ามัดด้วยพลาสติกสีดำสอดใส่ในถุงยางอนามัยแล้วยัดใส่ช่องคลอด ) ทั้งสามคนรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากชายชาวเขาเผ่ามูเซอ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในราคา คนละ 10,000 บาท ให้นำยาเสพติดจำนวนดังกล่าว ไปส่งที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยซื้อตั๋วรถให้ทั้งสามคน  เดินทางโดยรถยนต์ตู้โดยสารประจำทางสายฝาง-เชียงใหม่  และเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากล่าวว่า  “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัว ผู้ต้องหาทั้งสามคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชยปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป