วันที่ 15 ตุลาคม 2557 เวลา 10.00 น.

                จาการที่มีการถ่ายคลิปภาพ ออกสู่โลกออนไลน์ของบุคคลคนหนึ่งว่า มีเด็กถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวในหมู่บ้านหนองไผ่ หมู่ 15 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และไม่ทราบว่าปรารถนาดี หรือร้ายในการนำเสนอสู่โลกออนไลน์ ทางผู้สื่อข่าวได้ออกพิสูจน์ความจริงในพื้นที่ คือ บ้านนายจะอือ  จะก่า อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 161 หมู่ 15 ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่  และนางสาวอีโบ  จะอือ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 70 หมู่บ้านหนองไผ่ หมู่ 15 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และลูกสองคนคือ เด็กชายธีรเดช  จะอือ อายุ 10 ปี และเด็กชายจะแต๋   จะอือ  อายุ 6 ขวบ เด็กทั้งสองได้มาอาศัยอยู่กับแม่เพราะไม่ชอบพ่อถูกพ่อทำร้ายร่างกาย และไม่ดูแล ทราบว่าจริงแล้ว มีพ่อและแม่ ซึ่งได้อยู่ดูแลลูกอยู่ตามวิถีชีวิตของชนเผ่ามูเซอแดง ทั้งพ่อ และแม่ นั้นติดยาเสพติดทั้งสองคน และแยกทางกันอยู่ ลูกทั้งสองอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งในเวลากลางวันนั้น แม่ได้ไปทำงานปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังทั้งสองคนก็ตามวิถีของชาวเขา และติดยา อดมื้อกินมื้อ และทางสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลม่อนปิ่น ได้นำเอาเด็กชายธีรเดช  จะอือ อายุ 10 ปี ไปเข้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 แม่อาย ได้ไม่ถึงเดือนแม่คือ นางสาวอีโบ  จะอือ ได้ตาม และลักลอบเอาลูกกลับมาอยู่ด้วยกันในเพิงพักที่สร้างแบบกันแดดฝนไปเท่านั้น  ที่บ้านทางกรรมการหมู่บ้านได้จัดสรรให้อยู่ และเดิมนั้นครอบครัวก็อยู่กันอย่างมีความสุข มีบ้านสองชั้นอาศัยอยู่ และได้ติดยาเสพติดประเภทยาดำ หรือฝิ่น สภาพครอบครัวเริ่มเปลี่ยนไปขายทั้งบ้าน และที่ดินให้คนอื่น และแยกทางกันอยู่ ปัญหาตามมาไม่มีงานทำ และมีการลักของชาวบ้านไปขายเพื่อหาเงินซื้อยาฝิ่นมาเสพ บ้านก็ได้มาสร้างตรงริมอ่างน้ำหมู่บ้านแบบเพิงพักชั่วคราว ทางหมู่บ้านก็ให้การช่วยเหลือพอสมควร เรื่องทราบถึง นายมนัส  ขันใส นายอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งให้ นายแสวง  กาศรีวิชัย ปลัดอำเภอฝาง ทำการพิสูจน์โดยได้เข้าพื้นที่และตรวจสอบตามหลักความจริง ได้นำทั้งพ่อ และแม่ตรวจหาสารเสพติดพบว่ามีการเสพติดอยู่ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลธัญญาลักษณ์อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำการบำบัดและทั้งสองยินยอมที่จะทำการบำบัด ส่วนเด็กชายธีรเดช  จะอือ อายุ 10 ปี และเด็กชายจะแต๋   จะอือ  อายุ 6 ขวบ นั้นทาง ว่าที่ ร้อยตรีไพทูรย์  สุวรรณามังกร เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำเด็กทั้งสองคนเข้าไปพักและทำการดูแลที่บ้านพักเด็กชายจังหวัดเชียงใหม่ และจะส่งตัวเข้าทำการเรียนศึกษาที่โรงเรียนชาวไทยภูเขาหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 อำเภอเชียงดาว ซึ่งเป็นโรงเรียนของทหารเปิดโรงเรียนเพื่อช่วยเหลือเด็กชาวเขากินนอนตั้งแต่ ประถมปี่ที่ 1 ถึงชั้นประถมปี่ที่ 6 เพื่อเป็นโรงเรียนกินนอนฝึกระเบียบวินัย และทำการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ

                นายแสวง  กาศรีวิชัย  ปลัดอำเภอฝาง ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่าตามวิถีชีวิตของชนเผ่านั้นก็อยู่ง่ายกินง่ายอยู่แล้วแต่ครอบครัวนี้ เขาเองมีปัญหาเรื่องเสพยาเสพติด และได้แยกทางกันแบ่งลูกคนละคนแต่ลูกไม่อยู่กับพ่อมาอยู่กับแม่หมด เคยนำไปบำบัดหายแล้วแต่ก็หวนมาเสพอีก ก็ต้องทำการตามขั้นตอนทางราชการ ร่วมกันทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมกันให้การช่วยเหลือดูแลแล้วทั้งเด็กและพ่อแม่เด็ก ขอประชาชนผู้ชมทางสื่อออนไลน์ไม่มีสังกัดไม่ใช่ผู้สื่อข่าวที่เชื่อถือได้นั้นโปรดชมและมีวิจารณ์ญาณ  จริงแล้วหน่วยงานทางราชการนั้นมีอยู่ขอให้สอบถามข้อมูลจริง บางที่อาจจะมีผู้ประสงค์การรับบริจาคเพื่อให้ผู้มีจิตเมตตาส่งเงินเข้าบัญชีแต่ไม่ทราบหลักการในการช่วยเหลือจะถึงมือผู้ที่ต้องการช่วยเหลือหรือไม่ ทางส่วนราชการได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักทางราชการเรียบร้อยแล้ว