วันที่ 26 ส.ค.59  เวลา 20.00 น.

 พลเมืองดีเข้าทำการแจ้งความกับสายตรวจแม่สูน ว่ามีคนร้ายบุกเข้าบ้านทำร้ายเจ้าของบ้าน  เจ้าหน้าที่รีบรุดมาที่เกิดเหตุทันที พร้อมแจ้ง พ.ต.ต.พิชัย  บางเมฆ  พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธรฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รุดมาที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเคลื่อนที่เร็ว ที่บ้านหมายเลข 106  หมู่ที่ 10 บ้านสันมะเพือง ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งมีไทยมุงมาดูกันเต็มบ้านแล้ว ได้พบ นางแว่น  ลุงจันทร์  อายุ 82 ปี หูไม่ได้ยิน ซึ่งได้ถูกโจรร้ายทำทีเข้ามาในบ้านแล้วปิดหน้าปิดตาไม่พูดอะไร ได้ดึงตัวแม่เฒ่ามามัดด้วยเชือกแล้วทำการเตะถีบเพื่อบอกที่ซ่อนทรัพย์สิน  แต่ยายไม่ได้ยินจึงถูกทรมานอีก  ซึ่งเหตุการณ์เกิดประมาณ  15.00 น.โดยประมาณ  แล้วคนร้ายได้ทำการปิดประตูหน้าบ้าน  แล้วทำการตัดสายยู แต่ละห้องค้นหาเงินทองทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งทางแม่เฒ่าบอกไม่มี อยู่ทุกวันลูกหลานมาส่งข้าวปลาอาหารให้กิน แต่ผู้ร้ายไม่เชื่อ เพราะเห็นว่าในบ้านมีรถจักรยานยนต์ตั้งหลายคันแล้วทำไมไม่มีเงินได้เตะตีแม่เฒ่าอีก แล้วเข้าไปหยิบเอาทะเบียนรถจักรยานยนต์ไปเล่มหนึ่ง แล้วเดินออกทางหลังบ้านไป  ทราบจากชาวบ้านว่าในบ้านนี้จะมียายแว่น  อาศัยอยู่กับหลาน ช่วงกลางวันหลานก็จะไปโรงเรียน ลูกๆ ก็จะไปทำงานกันหมด เพราะช่วงหน้าลำไยก็จะรับจ้างเก็บลำไย ชาวบ้านที่ไปเก็บก็จะนำรถมาฝากแล้วขึ้นรถยนต์ไปคันเดียวทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้ มียายเฝ้าทุกวัน  คนร้ายจึงทราบความเคลื่อนไหวจึงเข้ามาทำการอุกอาจในครั้งนี้ 18.30 น. ทางลูกหลานได้เลิกจากเก็บลำไยก็ได้เดินทางเข้ามาบ้าน พบว่ายายแว่น  ถูกมัดและปิดปาก จึงเข้าทำการช่วยแก้มัดและสอบถามได้ความว่าโจรเข้ามาลักของในบ้าน  จึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ  ส่วนทางชุดกู้ภัย อบต.แม่สูน ก็ได้เข้ามาทำการช่วยเหลือนำยายแว่นส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย ซึ่งก็ได้รับความฟกช้ำดำเขียวหลายที่แต่ไม่มีบาดแผล   ทาง  พ.ต.ต.พิชัย  บางเมฆ  พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธรฝาง ร่วมกับชุดสืบสวนได้ปรึกษากัน คาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และรู้จักกัน จึงสามารถเข้ามาถูกเวลา และรู้ทุกซอกทุกมุม  แต่ดีไม่มีทรัพย์สินมีค่าหายไป เพราะลูกซึ่งเป็นเจ้าของบ้านนำติดตัวไปด้วย ร่องรอยลายมือเท้าก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะว่าทางยายแว่นแจ้งว่ามันใส่รองเท้าหุ้มพลาสติก  และมือใส่ถุงมือยาง  โจรคนนี้รอบครอบมาก  แต่ทาง พ.ต.ต.พิชัย  บางเมฆ  พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธรฝาง กล่าวกับชุดสืบสวน ว่าไม่น่าจะหาตัวยาก คงไม่เกินอาทิตย์คาดจะได้ตัว   ขอทางสื่อช่วยเตือนชาวบ้านให้ระวังทุกบ้าน อย่าทิ้งผู้เฒ่าผู้แก่อยู่บ้านคนเดียว อย่านำทรัพย์สินไว้ในบ้านควรนำติดตัวไปด้วย ที่สำคัญควรร่วมมือช่วยเหลือกันเป็นหูเป็นตาแทนกัน มีอะไรคนแปลกหน้าเข้ามาควรตระโกนแจ้งกันให้ดังๆ คนร้ายจะได้หนีออกหมู่บ้านไป