วันที่ 29 ส.ค.  59  เวลา 06.00 น.

 พันเอกชัยยันต์   สิรสุนทร  ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือที่ 1  รับแจ้งจากสายข่าวทางทหารว่าในหมู่บ้านเป้าหมายบ้านปางปอย หมู่ที่  9  ตำบลแม่คะ  อำเภอฝาง  จังหวัดเชียงใหม่ มีการซื้อขายยาเสพติด ยังมียาบ้าทะลักเข้ามาจากพื้นที่เขตชายแดนเข้ามาทำการพักในหมู่บ้าน จึงได้ทำการวางแผนออกปฏิบัติการเพื่อสกัดกั้นขบวนการ โดยการนำกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ 4 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 40 นาย ได้จัดวางแผนการเข้าทำการตรวจค้น จากการเข้าทำการตรวจค้น เมื่อรถต้นแบบทหารเข้าหมู่บ้านหน้าหมู่บ้านก็จะมีเด็กๆ เล่นไลน์ ซึ่งเป็นสายรายงานในหมู่บ้านให้รับรู้ ทางทหารเข้าหมู่บ้านทุกบ้านจะปิดประตูใส่กุญแจ และเหลือไว้แต่ผู้หญิง ส่วนนักเสพก็จะวิ่งหนีออกอีกทาง ซึ่งเป็นเชิงดอยตรงข้ามกับทางทหารเข้าปิดล้อมจากการตรวจค้น 3 เป้าหมาย เป้าหมายแรกก็จะเป็นบ้านที่พักยาเสพติด พบแต่อุปกรณ์เสพ  แต่ในบ้านไม่มีคนอยู่ เป้าหมายที่สองเป็นบ้านบนต้นไม้ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างบนต้นลิ้นจี่ และเป็นจุดที่นัดซื้อขายยาเสพติด และมีอุปกรณ์เสพพร้อมตรวจค้นได้พบเสพติดประเภทผงขาวจำนวน 1 ขวดบิ๊ก  อีก 8 หลอดกาแฟ ที่ใส่และตัดพร้อมจำหน่าย ส่วนตัวเจ้าของได้อาศัยความชำนาญทางวิ่งลงเขาหนีรอดไปได้  จากนั้นทางทหารเชื่อว่าไร่ข้าวโพดต้องมีสิ่งเสพติดฝังเอาไว้ จึงได้ออกหาพบหลุมที่ฝังยาเสพติประมาณ 4 หลุม  เป็นหลุมที่ฝังยาเสพติด ยังมีร่องรอย และกลิ่นยาบ้าตลบอบอวนในหลุม แต่ไม่พบยาเสพติด ซึ่งคาดว่าน่าจะไหวตัวทัน ได้นำยาเสพติออกนอกพื้นที่ก่อนที่ทหารจะเข้าถึง  ได้กล่องใส่ยาบ้าและพลาสติกห่อยาบ้า พร้อมถุงบรรจุเฮโรอีนตราสิงโตเหยียบลูกโลกอีกสองถุง  ซึ่งเป็นไร่ข้าวโพดของ นายจะแฮ  จะปูง  อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 515 หมู่ที่ 10 ตำบลเวียง  อำเภอฝาง  จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมาทำไร่ข้าวโพดในหมู่ที่ 9 บ้านปางปอย ตำบลแม่คะ และบ้าน นางนอลอ  จะทอ  อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 147/ซ  หมู่ที่ 9 บ้านปางปอย ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง  จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งเจ้าตัวไม่ทราบว่าใครมาทำการฝังในพื้นที่ของตน ในการเข้าตรวจค้นในบ้าน และในไร่ข้าวโพด มีทางผู้นำหมู่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านเข้ามาทำการเป็นพยานในการตรวจค้น  ถือว่าเป็นแหล่งพักยาเสพติดแหล่งใหญ่ที่ทางส่วนราชการจะต้องทำการตรวจสอบขยายผลต่อไป