ร่วมจับยาบ้าคาด่านตรวจผาหงษ์อ้างรับจ้างนายทุน

วันที่ 7 ธันวาคม 2556 เวลา 0.500 น.

ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวอำเภอไชยปราการ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ มักจะลักลอบนำยาบ้าซุกซ่อนมาเพื่อเข้าเมืองหลวงชั้นในเพื่อจำหน่าย

                พ.ต.ท.นิกร  สุตจริตธรรม  สวป.สภ.ไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้บังคับประจำด่านตรวจผาหงษ์ ได้นำกำลังตำรวจที่พอจะเหลือจากไปช่วยราชการกรุงเทพฯ ไม่กี่นาย ร่วมกับทหารกองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉเพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง และตำรวจตระเวนชายแดน 334 แม่อาย  ได้เข้าร่วมในการตรวจค้น และได้ทำการตรวจค้นพบซุกซ่อนยาบ้า 2 ราย มากับรถบัสประจำทางฝาง-เชียงใหม่ หมายเลขรถ 20 จำนวน 3 คน  และขับรถเก๋งมาเองซุกยาบ้าหลังเบาะรถเก๋ง  ถูกเจ้าหน้าที่จับได้คาด่านตรวจ

เวลา 05.00 น.  รายแรกมากับรถบัส ประจำทางฝาง-เชียงใหม่ หมายเลขรถ 20 จำนวน 3 คน    1. นายเลห์   ดีจ้อย  อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 87 หมู่ที่ 4 ตำบลลานกระบือ  อำเภอลานกระบือ จังหวัดพิษณุโลก    2. นางสาวน้ำฝน  ป้อมจันทร์  อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ที่ 9 ตำบลลานกระบือ  อำเภอลานกระบือ จังหวัดพิษณุโลก 3. ด.ช. ดำ (นามสมมุติ) ที่หลงมาเที่ยวด้วย ได้ซุกซ่อนยาบ้าจำนวน  15,000  เม็ด ในถุงเสื้อผ้าสีดำ วางไว้ที่ข้างเบาะนั่ง ซึ่ง นายเลห์   ดีจ้อย  รับสารภาพว่าได้รับจ้างขนให้นายทุน และจะนำส่งที่ อำเภอบางระกำ  จังหวัดพิษณุโลก โดยจะได้ค่าจ้างเป็นยาบ้าจำนวน 100 เม็ด เป็นรางวัลตอบแทน ซึ่งก็จะสามารถขายได้ในเม็ดละ 200 บาท เป็นเงินสดถึง 20,000  บาท  ส่วน นางสาวน้ำฝน  ป้อมจันทร์  และด.ช. ดำ (นามสมมุติ)ไม่เกี่ยวข้องด้วย และไม่ทราบว่าจะมารับของผิดกฎหมายจึงได้ปฏิเสธ

เวลา  06.00 น.  รายที่สอง ขับรถเก๋ง หมายเลขทะเบียน กร-7482  เชียงใหม่ ขับมาเองคนเดียว ทราบชื่อ นายพีรภัทร์  สวนแก้ว  อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 37/1 ตำบลวังแดง  อำเภอตรอน  จังหวัดอุตรดิตถ์  ซุกยาบ้าหลังเบาะรถช่วงโดยสาร  ทางตำรวจและทหาร ได้เรียกให้รถเข้ามาจอดในลานตรวจรถด่านผาหงษ์ พบว่าจัดเก็บยาบ้าไว้ในซอกหลังเบาะแบบง่ายๆ  นับจำนวนที่ได้จำนวน 30,000 เม็ด รับสารภาพว่าได้รับจ้างนายทุนเช่นกัน ถ้าส่งยาบ้าถึงมือก็จะจ่ายให้ 100,000 บาท โดยได้ไปรับยาบ้าที่ บ้านวังน้ำเย็น ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แต่นำส่งที่ใดนั้นไม่ทราบเพราะว่านายทุนจะโทรบอกภายหลัง

                ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลแล้ว แต่ไม่สำเร็จเพราะทั้งสองรายให้ความเท็จ จึงยากที่จะตามนายทุนได้  จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว