ลักลอบตัดไม้พื้นที่ป่าสงวน รัฐควรแก้ไขปัญหา

สร้างสรรค์ ร่วมกับชุมชนอย่างไรดี.....กฎหมายและการจับกุมไม่ใช่ทางออก.......

วันที่ 17 ก.ย.  57 เวลา 06.00 น.

ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สวนป่าแม่ทะลบหลวง (ออป.) ได้แจ้งมาทาง นายชาตรี  กิตติธนดิตถ์  นอภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่า และลักลอบตัดไม้สักทองสวนป่าแม่ทะลบหลวง จึงได้ให้ทางทหารกองบังคับการควบคุมที่ 2 และทหารชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน3203 พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาป่าเหมืองแร่ ชม.24 เจ้าหน้าที่รักษาป่าปางขามป้อม และเจ้าหน้าที่อุทยานดอยเวียงผา ฝ่ายป้องกันและอาสาสมัครรักษาชายแดนไชยปราการ กำนันตำบลแม่ทะลบ นายก อบต.แม่ทะลบ ประมาณ 80 นาย เข้าพื้นที่บ้านป่าหนาเพื่อตรวจสอบบ้านที่ขอสร้างจากไม้ไผ่ ซึ่งไม้สวนป่าออป. แม่ทะลบหลวง ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่  ได้ถูกชาวเขาบ้านป่าหนา หมู่ที่ 6 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่  เพราะว่ามีกลุ่มอิทธิพลอาศัยในหมู่บ้าน มีเครื่องมือในการตัดไม้ทำลายป่าที่ทันสมัย ทั้งเครื่องปั่นไฟฟ้า เครื่องเลื่อยไม้แบบโซ่  ได้ลักลอบตัดไม้ในสวนป่าแม่ทะลบหลวง ซึ่งเป็นไม้สักจำนวนมาก เพื่อทำการแปรรูปจำหน่ายให้กับนายทุน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบ และพร้อมตรวจยึดไม้เถื่อนจำนวนมากจากในหมู่บ้านนี้ แต่ก็ไม่เข็ดหลาบ และได้เข้าไปตรวจสอบบ้าน น.ส.มณีรัตน์  แสนใจ อายุ 29 ปี 334/1 หมู่ที่ 6 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่  ขออนุญาตสร้างบ้านถาวรด้วยไม้ฟากไม้ไผ่ และจะไม่ตัดไม้ทำลายป่า จากเอกสารจดหมายขอทำการสร้างบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบพบว่ามีไม้ที่ผิดกฎหมายจำนวนมากที่ได้นำมาสร้างบ้าน เสาไม้สักทองของสวนป่าแม่ทะลบหลวง และมีไม้ประดู่ที่กฎหมายให้เป็นไม้สงวนอีกจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก็ไม่พบเจ้าของ เพราะทราบว่าจะต้องถูกจับกุม เพราะทำผิดมีของกลางชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้ทำการถ่ายรูป เพื่อทำหลักฐานว่ามีไม้ที่ผิดกฎหมาย และสั่งห้ามเคลื่อนย้าย ซึ่งทางป่าไม้จะได้ขอหมายจากศาลฝาง เข้าทำการตรวจยึดในโอกาสต่อไป  ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันคิดว่าจะให้ทางส่วนราชการทุกส่วนได้เข้ามาจัดอบรมให้ความรู้เรื่องกฎหมายป่าไม้, ความสำคัญของป่าไม้, โทษของการตัดไม้ทำลายป่า ตลอดจนผู้ที่มีเลื่อยโซ่ในครอบครองที่ผิดกฎหมาย นำมาร่วมทำการประชาคมร่วมออกความคิดเห็น และพร้อมลงนามร่วมกันรักษาป่าออกกฎระเบียบของชุมชน เพื่อแนวทางในการป้องกันการบุกรุกทำลายป่าและทำลายทรัพย์สินทางราชการ ซึ่งทางชาวบ้านก็พร้อมจะร่วมประชาคมและหาทางออกร่วมกัน  ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ดีทุกๆ ฝ่าย