วันที่ 20 พ.ย.  57  เวลา 14.00 น.

            นายภาษเดช  หงส์ลดารมภ์  นอภ.เชียงดาว  จ.เชียงใหม่ ร่วม พันเอกจีรวัฒน์   นาคะรัตน์  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่5 กองกำลังผาเมือง และ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์   ภัทรพงศ์สินธุ์  ผกก.สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมตำรวจตระเวนชายแดน335 และกองร้อยอาสารักษาดินแดนเชียงดาว ร่วม 80 นาย เข้าทำการปิดล้อม บ้านผาลาย หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งละคร หมู่ที่ 5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อทำการกวาดล้างกลุ่มอาชญากร และกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่ ได้ร่วมสนธิกำลังเข้าทำการสกัดกั้นอย่างต่อเนื่อง ได้ออกทำการปิดล้อมตั้งแต่ 06.00 น. โดยอาศัยกฎอัยการศึก ได้ตรวจพบ นายอัศกรณ์  ซูผะ  อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 18/16 บ้านผาลาย หมู่ที่ 4 และนายเกรียงไกร  รู้ดีตรวจเพส์  อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 281/1 บ้านทุ่งละคร หมู่ที่ 5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ตรวจพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง และฝิ่นดิบ พร้อมอุปกรณ์เสพ รับสารภาพว่า ร่วมกันเสพทั้งยาบ้าและยาฝิ่น และได้จับ น.ส.อนุสรา  ตาหมี่ อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 190/10 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว  จ.เชียงใหม่ มียาบ้า 192 เม็ด รับสารภาพว่า ได้ไปรับซื้อมาจากกลุ่มคนค้ายาบ้า ในหมู่บ้านสหกรณ์ ซึ่งเป็นชาวเขาไม่ทราบชื่อก็เป็นการปกปิดตามหลักของผู้ค้าที่มีจรรยาบรรณ ได้นำตัวไปขยายผลเพิ่มหาผู้ร่วม ในการส่งขายยาบ้าให้เจ้าตัวไหวตัวทันหลบหนีเข้าป่าไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในเวลา 09.00 น. นายอำเภอเชียงดาว ได้ทำการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ อบต. พร้อมเทศบาล ให้ช่วยประกาศให้ชาวบ้าน ที่ไปทำสวนในป่าลึกนั้น จงเฝ้าระวังเพราะว่าในขณะนี้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ได้เปลี่ยนเส้นทางเดินยาบ้ามาส่งในพื้นที่ อำเภอเชียงดาว จำนวนมากกลัวว่าจะมาเจอกัน และจะถูกกลุ่มขนยาเสพติด ทำร้ายถึงชีวิต จึงขอให้เฝ้าระวังให้มาก และถ้าสามารถส่งข่าวให้เจ้าหน้าที่ทราบ ก็จะเป็นการดีเพราะจะได้ออกทำการปราบปรามให้สิ้น พร้อมกับประสานกับหน่วยอนุรักษ์ป่าไม้ ให้เฝ้าระวังเพราะการลำเลียงยาเสพติด จะอาศัยเส้นทางเดินเท้าในป่าลึก ขอให้เฝ้าระวังและส่งข่าวทางส่วนปกครองทหารตำรวจถ้าพบเจอ

วันที่ 19 พฤศจิกายน  2557 เวลา 14.00 น.

            พ.ต.อ.ปิยะพันธ์   ภัทรพงศ์สินธุ์  ผกก.สภ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และ พ.ต.ท.ตระกูล  พิทาคำ ออกตรวจลาดตระเวนในพื้นที่ บ้านวังจ๊อม ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พบว่ามีหญิงสาวชาวลีซอ ขับรถจักรยานยนต์สีแดงไม่ติดป้ายทะเบียน ขับมาและแวะซื้ออาหารเพื่อจะกลับเข้าไปยังหมู่บ้านของตนเอง ตำรวจสังเกตว่ามาจากในหมู่บ้านสหกรณ์ จึงเข้าขอทำการตรวจค้นตัว ซึ่งเจ้าตัวเหงื่อแตกเพราะมีของผิดกฎหมาย ตำรวจได้ขอให้แม่ค้าหญิงช่วยตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 192 เม็ด สีส้ม WY ซุกซ่อนในเสื้อยกทรงด้านซ้าย ทราบชื่อ นางสาวอนุสรา  ตาหมี่ อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 190/10 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว  จ.เชียงใหม่ รับสารภาพว่า ได้ไปรับซื้อมาจากกลุ่มคนค้ายาบ้าในหมู่บ้านสหกรณ์ ซึ่งเป็นชาวเขาไม่ทราบชื่อ ก็เป็นการปกปิดตามหลักของผู้ค้าที่มีจรรยาบรรณ  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง พ.ต.ท.ธงชัย  เอื้อแท้ พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันที่ 18 พ.ย.  57 เวลา 06.00 น.

                ด้วยทางนโยบายของกองกำลังผาเมือง ให้ทำการสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน สายข่าวแจ้งว่ามีขบวนการขนยาบ้าเข้าพื้นที่จำนวนมาก ทาง พันเอกจิรวัฒน์  นาคะรัตน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมืองได้ให้ กองร้อยทหารม้าที่ 4 กองบังคับควบคุมที่2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมือง ได้ขอสนธิ กำลังตำรวจภูธรฝาง, ตำรวจตระเวนชายแดน334, กองร้อยอาสารักษาดินแดนฝาง, อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โดยมี พ.ต.อ. สุรกิจ  ศรีมนัส ผกก.สภ.ฝาง นำกำลังจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 150 นาย สุนัขทหารตรวจดมยาเสพติด 1 ตัว เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นในหมู่บ้าน ห้วยนกกก หมู่ที่ 15 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ติดกับแนวชายแดนไทย-พม่า เป็นกลุ่มหมู่บ้านที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาพัก เพื่อส่งต่อ  และในหมู่บ้านจะมีพฤติกรรมขายยาบ้าให้กับวัยรุ่น และมีคนเสพอีกจำนวนหนึ่ง ที่เดินขายยาบ้า ทางชุดปิดล้อมตรวจค้นได้เคลื่อนขบวนเข้าทำการกดดันสกัดกั้นขบวนการในเวลา 06.00 น. ในส่วนของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ได้ทราบการมาของเจ้าหน้าที่ ได้หนีออกหมู่บ้านก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงในหมู่บ้าน ได้ตรวจค้นบ้านพัก พบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง เจ้าตัวยังไม่ยอมรับแจ้งว่า ไม่เคยยุ่งเกี่ยวแต่บ้านมีกันหลายคนเข้าออกได้ตลอดเวลา และจับกลุ่มที่เสพยาบ้ามาตรวจปัสสาวะได้คนเสพอีก สองคน จึงได้นำตัวทั้งหมดส่งเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝางเพื่อดำเนินคดีกันต่อไปแล้ว

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00 น.

                พันโทชูชีพ  ชื่นพันธ์  รองหัวหน้าฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค3 ส่วนแยก 1 กองกำลังผาเมือง และนายปธิกร  เอี่ยมสะอาด ปลัดอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธรแม่อาย เจ้าหน้าที่ อส.แม่อาย  มาทำการตรวจความเรียบร้อยและสังเกตการณ์ ที่ถนนหลวง 1089 ช่วงบ้านท่าตอน หมู่ที่ 6 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย  จ.เชียงใหม่ เนื่องจากมีประชาชน และเยาวชน นักศึกษา ประมาณ 250 คน ได้มาแสดงพลังจะปิดถนนห้ามรถบรรทุกทรายผ่าน เพื่อทำการต่อต้านการสัมปทานท่าดูดทรายแม่น้ำกก อีก 2 แหล่งที่กำลังดำเนินการตามขั้นตอนทางราชการ ซึ่งประชาชน และเยาวชนไม่ต้องการให้มีการสัมปทานเพิ่มอีก เพราะทำให้ระบบน้ำแม่น้ำกก นั้นเปลี่ยนทิศทาง และกัดเซาะแนวฝั่งน้ำเปลี่ยนทิศทาง ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินประชาชนน้ำเปลี่ยนทิศทาง ทำให้ที่ดินทำการเกษตรหายไปหลายร้อยไร่ ยังทำให้หาดทรายที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวทั้งไทย และเทศมาเที่ยวหายไปหมด ทั้งยังทำให้สภาพทางธรรมชาติเปลี่ยนไป บนถนนหลวงก็จะมีรถบรรทุกทรายขนาดใหญ่วิ่งผ่านเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรไปมา เม็ดทรายตกหล่นอันตรายต่อผู้ใช้ถนน ในปัจจุบันมีท่าดูดทรายแล้วจำนวน 3 ราย ที่สัมปทานมานานแล้ว ก็สร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศอยู่แล้ว แต่จะมาสัมปทานเพิ่มอีกไม่ยอมจะต่อต้านต่อไป นายสุรเชษฐ์  หลวงหนุ่ม ผู้นำชุมชนบ้านท่าตอน ได้ส่งมอบเอกสาร ร้องเรียนไม่ให้มีการสัมปทานท่าทราย เพิ่มอีกต่อ นางสาวอรสา  แสนลี่  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตอน เพื่อนำไปพิจารณา  ทาง นายปธิกร  เอี่ยมสะอาด ปลัดอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งสื่อว่า จริงแล้วเรื่องการสัมปทานท่าทรายนั้น เรื่องยังอยู่ที่ อบต.ท่าตอน อยู่ทางอำเภอแม่อาย ยังไม่ได้รับเรื่อง แต่ทราบก่อนหน้าแล้ว ซึ่งถึงจะผ่านจาก อบต.ท่าตอน แล้ว ทางอำเภอก็ต้องมาตรวจสอบว่าจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ หรือระบบของการไหลของน้ำจะเปลี่ยนเส้นทางเดินหรือไม่ ก็ไม่ได้ปล่อยให้มีการผ่านเรื่องไปได้ง่ายๆ ต้องมีเจ้าหน้าที่ลงมาในพื้นที่ แต่เรื่องคงจะไม่ผ่าน เพราะมีประชาชน และเยาวชนมาต่อต้านแล้ว  ทางพันโทชูชีพ  ชื่นพันธ์  รองหัวหน้าฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค3 ส่วนแยก 1 กองกำลังผาเมือง ก็ได้เข้ามาพบผู้ที่แสดงพลัง ขอให้แสดงพลังอย่างสงบไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และรถที่สัญจรไปมา ไม่สร้างความเดือดร้อนกับส่วนราชการ ทางกลุ่มแสดงพลังก็ได้ย้ายไปแสดงพลังต่อที่หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตอนอย่างสงบ เวลาประมาณ 12.00 น. หลังจากทางสภาตำบลท่าตอนได้เข้าร่วมประชุม และพิจารณาแจ้งทราบว่า ยังไม่มีการสัมปทานท่าดูดทราย ทางผู้แสดงพลังพอใจในระดับหนึ่ง จึงได้สลายตัวแยกย้ายไปอย่างสงบ แต่จะกลับมาแสดงพลังอีกถ้ายังมีการร้องขอสัมปทานท่าดูดทราย ทางพันโท ชูชีพ  ชื่นพันธ์  รองหัวหน้าฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค3 ส่วนแยก 1 กองกำลังผาเมือง พร้อมผู้สื่อข่าว ได้ลงเรือตรวจสภาพร่องน้ำ และความเสียหายชายฝั่งน้ำกก ซึ่งก็พังลงมาก และมีสายน้ำเปลี่ยนร่องทางเดินน้ำจริง ซึ่งทางส่วนราชการต้องลงมาตรวจสอบ และหาทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาร่องน้ำเปลี่ยนทางเดินกัดเซาะฝั่ง กินที่ดินทำการเกษตรของประชาชนหลายร้อยไร่